แอฟริกาเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล หวังเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีใหม่ของโลก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทวีปแอฟริกาได้แสดงศักยภาพในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างจริงจัง ท่ามกลางการเติบโตทางประชากรอย่างต่อเนื่องและการขยายตัวของเทคโนโลยีทั่วโลก หลายประเทศในแอฟริกากำลังเร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ตั้งแต่ระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ศูนย์ข้อมูล (Data Center) ไปจนถึงเขตเมืองอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรากฐานใหม่ให้ทวีปกลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีระดับโลกในศตวรรษที่ 21

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของทวีปแอฟริกาคือการยกระดับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยมีประชากรเพียงประมาณ 35–40% ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ความพยายามของหลายรัฐบาลได้เริ่มเห็นผล เช่น การวางโครงข่ายเคเบิลใต้น้ำความเร็วสูงอย่าง “Equiano” ของ Google และ “Umoja” ที่เชื่อมต่อประเทศในแอฟริกากับยุโรปและอเมริกาโดยตรง ทั้งนี้ยังมีการวางโครงข่าย 5G และไฟเบอร์ออปติกทั่วประเทศในแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกาตอนใต้ ซึ่งคาดว่าภายใน 5 ปีข้างหน้า การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอาจเพิ่มเป็น 60–70% ของประชากรทั้งทวีปรัฐบาลและองค์กรระดับนานาชาติยังร่วมมือกันเพื่อผลักดันให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกลายเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน โดยโครงการ "Partnership for Digital Access" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ตั้งเป้าให้ 80% ของประชากรแอฟริกาเข้าถึงอินเทอร์เน็ตภายในปี 2030

อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลคือการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) และแพลตฟอร์มคลาวด์ในท้องถิ่น เพื่อให้บริการกับธุรกิจทั้งในและนอกทวีป ปัจจุบัน Raxio Group ซึ่งเป็นบริษัทด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในแอฟริกาได้รับการสนับสนุนจากธนาคารโลกผ่านสถาบันการเงิน IFC ด้วยเงินทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดตั้งศูนย์ข้อมูลใน 7 ประเทศ

ในขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Microsoft ได้ประกาศลงทุนเพิ่มในแอฟริกาใต้เป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขยายระบบ AI และแพลตฟอร์มคลาวด์ พร้อมฝึกอบรมบุคลากรกว่า 50,000 คนในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง ขณะที่ Google ได้เปิดตัว Cloud Region แห่งแรกในแอฟริกาตอนใต้และวางแผนจ้างงานกว่า 300,000 คนภายในปี 2030

การกระจายศูนย์ข้อมูลในภูมิภาคนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุนขององค์กรธุรกิจในท้องถิ่น แต่ยังเสริมความมั่นคงทางไซเบอร์ และลดการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานจากต่างประเทศอีกด้วย

แอฟริกาไม่ได้หยุดเพียงแค่การเชื่อมต่อและระบบข้อมูลเท่านั้น แต่ยังมุ่งหน้าสู่การสร้าง “เมืองนวัตกรรม” หรือ “เทคโนโลยีฮับ” ที่สามารถดึงดูดสตาร์ตอัป นักลงทุน และนักวิจัยจากทั่วโลก ตัวอย่างสำคัญคือโครงการ “Konza Technopolis” ของเคนยา ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “Silicon Savannah” ของแอฟริกา โดยเป็นพื้นที่กว่า 5,000 เอเคอร์ที่รวบรวมมหาวิทยาลัย ศูนย์วิจัย บริษัทเทคโนโลยี และสำนักงานภาครัฐไว้ในที่เดียว

อีกโครงการที่น่าสนใจคือ “Kigali Innovation City” ในประเทศรวันดา ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารพัฒนาแอฟริกา (AfDB) โดยออกแบบให้เป็นระบบนิเวศสำหรับสตาร์ตอัปด้านไอทีและเทคโนโลยีชีวภาพ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น วิทยาเขตนานาชาติ ศูนย์วิจัย และโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ

สรุปประเด็นสำคัญ

• แอฟริกากำลังเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ
• การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตยังต่ำ แต่กำลังเติบโตเร็วจากโครงการเคเบิลใต้น้ำและโครงข่าย 5G
• โครงการเมืองนวัตกรรม เช่น Konza Technopolis และ Kigali Innovation City กำลังเป็นที่สนใจระดับโลก
• บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่และองค์กรการเงินระหว่างประเทศเข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน
• ยังมีอุปสรรคด้านพลังงาน การเมือง และบุคลากรที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วน